ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial
Intelligence):
คุณหมออายุรกรรมออนไลน์คำนวณระดับน้ำตาลสะสม(HbA1c)จากเลือดเพียงปลายนิ้ว
ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial
Intelligence) คือโปรแกรมซอฟแวร์ต่าง ๆ ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์
โดยเฉพาะความสามารถในการคิดเองได้ หรือมีปัญญานั่นเอง
ปัญญานี้มนุษย์เป็นผู้สร้างให้คอมพิวเตอร์ จึงเรียกว่า ปัญญาประดิษฐ์ AI นั้นถูกเอามาใช้ในงานแทนมนุษย์หลายอย่าง
เพื่อลดการใช้แรงงานคน และสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ป่วย การกระทำคล้ายมนุษย์
การคิดคล้ายมนุษย์ การเรียนรู้ คิดอย่างมีเหตุผล
ปัจจุบันระดับน้ำตาลสะสมสามารถบ่งบอกประสิทธิภาพการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
การแปลผลระดับน้ำตาลสะสมในผู้ป่วยเบาหวานทั่วไปและผู้ป่วยที่มีฮีโมโกลบินผิดปกติชนิดอี
ที่ระดับน้ำตาลเท่ากัน
ผู้ป่วยที่มีฮีโมโกลบินผิดปกติชนิดอีจะมีระดับน้ำตาลสะสมน้อยกว่าและมีงานวิจัยระบุว่าการที่ผู้ป่วยเบาหวานทราบผลระดับHbA1c ทันทีทำให้การควบคุมน้ำตาลดีขึ้น
การวิจัยนี้เป็นการศึกษาปัญหาเฉพาะอย่างทางการแพทย์จุดประสงค์ของระบบนี้คือทำให้เสมือนมีมนุษย์ผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาและคำตอบเกี่ยวกับปัญหาการแปลผลการควบคุมระดับน้ำตาล
วิธีการศึกษาใช้การคำนวณจากเลือดจากปลายนิ้ว
ทั้งหมด 4 สูตร เปรียบเทียบกับค่าที่วัดได้จริง เป็นการศึกษาแบบครั้งเดียว
เก็บข้อมูลผู้ป่วยเบาหวานที่ติดตามการรักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเมือง
ปี 2557-2559 จำนวนที่เจาะเลือด 10,267 ครั้ง โดยใช้สถิติ Pair
t-test และ Multi-level regression analysis
เพื่อทดสอบสูตรที่ใช้ในการคำนวณระดับ
HbA1c
สูตรต่างๆ เปรียบเทียบกับค่าที่วัดได้จริง เพื่อหาสูตรที่ดีที่สุด
ผู้ป่วยเบาหวานที่ติดตามการรักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเมือง
ปี 2557-2559 จำนวนที่เจาะเลือด 10,267 ครั้ง ผลการศึกษาพบว่า
ค่าระดับน้ำตาลสะสมที่ได้จากการคำนวณไม่แตกต่างจากค่าที่วัดได้จริง ค่าเฉลี่ย
7.038 และ 7.046 (P=0.717) การเปลี่ยนแปลงของน้ำตาลสะสมจากการคำนวณ 1
หน่วย ทำให้ค่าที่วัดได้จริงเปลี่ยนแปลง 1.028 หน่วย แบบไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ
ในปัจจุบันมาตรฐานการดูแลผู้ป่วยเบาหวานนั้น
ต้องติดตามการการควบคุมระดับน้ำตาลด้วยระดับ HbA1c แต่ด้วยสถานะทางการเงินของหลายๆโรงพยาบาล
และจำนวนผู้ป่วยที่มีปริมาณมาก ทำให้เป็นข้อจำกัดในการตรวจเลือดชนิดนี้
ผู้ป่วยต้องรอผลเลือดนานขึ้น ค่าใช้จ่ายมากขึ้น
นอกจากนี้มีการศึกษาที่ระบุว่าการแจ้งผล HbA1c ทันที ทำให้ผู้ป่วยคุมน้ำตาลได้ดีขึ้น
คงจะดีไม่น้อยหากมีสูตรที่ใช้ในการคำนวณได้
จากการทบทวนบทความในอดีตนั้นมีการคิดคำนวณกลับจาก HbA1c เป็นระดับน้ำตาลและมีการศึกษาความสัมพันธ์ของระดับ HbA1c ดับระดับน้ำตาลในเวลาต่างๆ
ยังไม่มีการศึกษาความสัมพันธ์กับความเข้มข้นของเลือด
หรือชนิดของเม็ดเลือดที่ผิดปกติ
แต่เนื่องจากจังหวัดสุรินทร์มีผู้ป่วยเม็ดเลือดผิดปกติจำนวนมาก
และผู้ป่วยเหล่านี้จะมีความเข้มข้นของเลือดผิดปกติด้วย
ทำให้เราสามารถศึกษาความสัมพันธ์เหล่านี้ได้
แต่คงมิได้มาแทนมาตรฐานการรักษาแต่ประการใด
มุ่งหวังว่าคงเป็นประโยชน์ในการคัดกรองเบื้องต้นในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล
คลินิกเล็กๆ โรงพยาบาลชุมชนที่มีปัญหาทางการเงินบ้างไม่มากก็น้อย
สรุป ได้ว่าในหน่วยบริการขนาดเล็ก
น่าจะใช้ค่าน้ำตาลสะสมจากการคำนวณในขั้นต้น
เพื่อให้ผู้ป่วยควบคุมระดับน้ำตาลตนเองได้