วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Hemoglobin A1c

 Hemoglobin A1c คือ ระดับน้ำตาลเฉลี่ย หรือ ระดับน้ำตาลสะสม

เป็นน้ำตาลที่เกาะกับเม็ดเลือดแดง ไม่เปลี่ยนแปลงเร็ว เป็นตัวบ่งชี้ของการควบคุมน้ำตาล ในระยะ 2-3 เดือนที่ผ่านมาว่าสามารถคุมนำตาลได้ดีหรือไม่ ปกติควรตรวจประมาณ 3 เดือนต่อครั้ง หรืออย่างน้อยปีละครั้ง

                  การศึกษาในอดีตที่ผ่านมา พิสูจน์แล้วว่าการควบคุมน้ำตาลให้ดีนั้นทำให้ผู้ป่วยอายุยืนยาว แผลหายเหมือนประชากรทั่วไป ช่วยชะลอการเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ตั้งแต่โรคเบาหวานเข้าตา โรคไตจากเบาหวาน หรือปลายประสาทเสื่อมที่ขา แต่การป้องกันการเกิดโรคสมองและโรคหัวใจนั้นต้องการควบคุมความดันโลหิต การควบคุมระดับไขมันในเลือดและการสูบบุหรี่ร่วมด้วย

คำถามที่พบบ่อยเมื่อเราตรวจคลินิกคนไข้เบาหวานคำถามที่หนึ่งระดับน้ำตาลเท่าใดจึงจะถือว่าเป็นโรคเบาหวาน

           ปัจจุบันระดับน้ำตาลปลายนิ้วเมื่ออดอาหารมากกว่า 6 ชั่วโมงงดน้ำงดอาหารตั้งแต่หลังเที่ยงคืนแล้วเจาะเลือดตอนเช้าน้ำตาลที่เจาะที่ปลายนิ้วไม่ควรเกิน 126 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือน้ำตาลเฉลี่ยมากกว่า 6.5 เปอร์เซ็นต์

หากเกิน 126 เราจะถือว่าเป็นเบาหวานและถ้าไม่เกิน 140 ก็ถือว่าน้ำตาลไม่สูงมากอาจจะยังไม่ต้องกินยาแต่ต้องควบคุมอาหารงดของหวานทุกชนิดและลดอาหารที่มีแป้งลงและต้องเจาะเลือดบ่อยขึ้นอาจจะทุกเดือนหรือทุกสองเดือนแล้วควบคุมให้ ให้ได้น้อยกว่า 120 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ หรือ น้ำตาลเฉลี่ยน้อยกว่า 6.5 เปอร์เซ็นต์

ปกติแล้วแพทย์จะให้เวลาควบคุมเองประมาณสามเดือนถ้าเกินสามเดือนไปแล้วยังไม่สามารถควบคุมน้ำตาลในเลือดให้น้อยกว่า 120 ก็มีความจำเป็นจะต้องเริ่มยาลดระดับน้ำตาลไม่ควรทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน วรรคเพราะการที่น้ำตาลสูงไม่มากเป็นระยะเวลานานนานจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดทำให้เส้นเลือดตีบถ้าเส้นเลือดที่ตาตีบก้อนมีความเสี่ยงต่อการเกิดตาบอดในอนาคตถ้าเส้นเลือดที่หัวใจตีบก็เป็นโรคหัวใจถ้าเส้นเลือดที่ไตตีบ ก็เป็นโรคไตหากน้ำตาลสูงกว่า 100 และไม่ถึง 126 ยังไม่ถือว่าเป็นเบาหวานแต่มีความเสี่ยงสูงไม่ต้องรับประทานยาแต่ต้องควบคุมอาหาร งดของหวานงดแป้งลดแป้งลดผลเม้ที่หวานมากออกกำลังกายวันละ 30 นาทีและตรวจเลือดทุกทุกสองเดือนหรือทุกเดือน

ยังไม่พบแพทย์ก็ได้ควบคุมเองแต่ถ้าหากน้ำตาลสูงมาก เกิน 160 ไม่ควรรหรือควบคุมเองควรไปพบแพทย์ใกล้บ้านแบบไม่เร่งด่วนอาจจะต้องเริ่มยาเร็วขึ้นเพราะว่าการควบคุมด้วยการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร จะลดน้ำตาลได้ประมาณ 30 ถึง 40 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เท่านั้นการใช้ยาจะทำให้ควบคุมได้เร็วขึ้นเพราะการรักษาโรคเบาหวานนั้นมีช่วงเวลาที่เป็นนาทีทองหมายความว่าใน ในช่วงเวลาสามเดือนถึงหกเดือนแรกของการเป็นเบาหวานหรือปีแรกของการเป็นเบาหวานถ้าควบคุมได้ดีการเกิดโรคแทรกซ้อนจะเกิดช้าในทางกลับกันถ้าช่วงปีแรกควบคุมน้ำตาลได้ไม่ดีเมื่อเกิดโรคแทรกซ้อนแล้วการตั้งใจควบคุม น้ำตาลในช่วงที่เกิดโรคแทรกซ้อนจะไม่สามารถรักษาเส้นเลือดที่ตีบไปแล้วได้

                                         
การรักษาในช่วงที่เกิดโรคแทรกซ้อนช่วยได้เพียงว่าไม่ให้มีเส้นเลือดตีบมากขึ้นเท่านั้นเช่นหากเกิดเส้นเลือดในสมองตีบไปแล้ว หลังจากนั้นมาควบคุมระดับน้ำตาลให้ดีก็จะไม่สามารถทำให้เส้นเลือดที่ตีบไปแล้วกลับมาปกติได้แต่อาจจะป้องกันไม่ให้เกิดเส้นเลือดตีบเพิ่มเท่านั้น

ดังนั้นในช่วงแรกที่เป็นเบาหวานในอายุน้อยๆ แพทย์จึงมักจะเข้มงวดกับผู้ป่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลจนทำให้บางครั้งผู้ป่วยเกิดความเบื่อหน่ายเบื่อหมอเบื่อโรงพยาบาลเบื่อยาแต่ต้องอดทนอยู่กับมันให้ได้ เพื่อวัตถุประสงค์ของการรักษาเพื่อชะลอการเสื่อมของอวัยวะต่างๆชะลอการเสื่อมของไตชะลอการเสื่อมของหัวใจชะลอการเกิดอัมพาตอัมพฤกษ์ชะลอการเสื่อมของปลายประสาททำให้ผู้ป่วยอายุยืนยาวแบบมีคุณภาพชีวิตที่ดี

โรคเบาหวานนั้นน้ำตาลสูงไม่มากจะไม่มีอาการอะไรแต่ปล่อยทิ้งไว้ทำให้เอาไว้อวัยวะเสื่อมก่อนวัยอันควรวัตถุประสงค์ของการรักสาจริงเพื่อป้องกันความพิการผู้ป่วยเบาหวานจะไม่เสียชีวิตหรอกแต่โรคเบาหวาน จะทำให้เกิดความพิการถูกตัดขาตาบอดไตวายและที่น่ากลัวคือต้องเป็นอัมพาตและอัมพฤกษ์ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้เป็นภาระต่อลูกหลานเรียกว่าตายก็ไม่ตายแต่พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้น่ากลัวกว่าตายเสียอีก

คำถามที่สองทำไมคุมอาหารและออกกำลังกายแล้วน้ำตาลยังไม่ลดเหตุผลเพราะว่าโรคเบาหวานนั้นส่วนหนึ่งมาจากกรรมพันธุ์ร่างกายมีภาวะดื้อต่ออินซูลินดังนั้นไม่ได้เกิดจากอาหารอย่างเดียว จึงเป็นเหตุผลว่าถึงแม้ควบคุมอาหารอย่างเต็มที่ออกกำลังกายเต็มที่น้ำตาลก็ยังไม่ลงจึงต้องพึ่งพายาหลายหลายชนิดโดยเฉพาะผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานมาเป็นระยะเวลานานร่างกายจะถูกยากระตุ้นที่ตับอ่อนทำให้ตับอ่อนฝ่อได้ อาจจะต้องใช้ยาฉีดเพื่อเป็นการพักตับอ่อนแล้วประเมินอีกครั้งว่าจะสามารถกลับมาใช้ยาเม็ดได้หรือไม่มีผู้ป่วยหลายรายน้ำตาลมากกว่า 200 ยังไม่ยอมรับประทานยาก็อันตรายมากเพราะน้ำตาลที่สูงทำให้หลอดเลือดเสื่อม ผู้ป่วยบางคนลูกดุมากไม่ยอมให้ทานแป้งและน้ำตาลเลยจนกระทั่งขาดอาหารระดับโปรตีนในเลือดต่ำมากจนกระทั่งบวมที่เท้าสองข้างแต่น้ำหนักก็ยังไม่ลดลงเป็นการขาดอาหารชนิดหนึ่งคือการขาดโปรตีนและพลังงาน ผู้ป่วยเบาหวานนั้นต้องการพลังงานร่วมด้วยไปพร้อมพร้อมกับยาเพราะว่าถ้าอดอาหารมากร่างกายจะนำพลังงานจากกล้ามเนื้อตัวเองมาใช้โดยการสลายกล้ามเนื้อตัวเองมาใช้เป็นพลังงานซึ่งอวัยวะที่ต้องการน้ำตาลอย่างมาก คือสมองดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ผู้ป่วยดื่มเครื่องดื่มประเภทไม่มีน้ำตาลเด็ดขาดนอกจากทำให้ผู้ป่วยติดความหวานแล้วเครื่องดื่มเหล่านั้นไม่มีน้ำตาลสมองเมื่อขาดน้ำตาลจะส่งสัญญาณทำให้หิวมากขึ้นกว่าเดิมอีกดังนั้นผู้ป่วยเบาหวานหาก ต้องการลดน้ำหนักยังคงต้องการพลังงานจากอาหารอย่างต่ำ 800 แคลอรี่ต่อวันก็คือต้องลดอาหารลงเป็นประมาณ 200 ถึง 300 แคลอรี่ต่อมื้อแล้วทานให้ครบสามมื้อเพราะว่ายาที่ให้อย่างไรเสียก็ไม่เหมือนธรรมชาติยาจะออกฤทธิ์เต็มที่ตามมื้ออาหารสามมื้อ หากท่านทานอาหารไม่เหมือนคนทั่วไปต้องปรึกษากับแพทย์เพื่อแพทย์จะได้จัดยาให้เหมาะสมในผู้ป่วยแต่ละคนเช่นพระภิกษุสงฆ์จะไม่ฉันอาหารเย็นเพราะฉะนั้นหมอจะจัดยาไว้ที่อาหารเช้ามากกว่าคนทั่วไปเพราะฉะนั้นพระก็ต้องลดอาหารเย็นลงผู้ป่วยบางคนตอนเป็นฆราวาสคุมน้ำตาลได้ยาก แต่เมื่อไปบวชเป็นพระภิกษุสงฆ์กลับคุมอาหารได้ดียิ่งขึ้นแต่พระภิกษุสงฆ์บางรูปคุมน้ำตาลได้ยากเพราะมีน้ำปานะที่ค่อนข้างหวานอยู่ในมื้อเย็นและอาหารที่ญาติโยมถวายมีของหวานของเค็มและของมันจำนวนมากก็อาจจะคุมได้ยาก

 คำถามที่สามทำไมคนเป็นเบาหวานจึงห้ามดื่มสุราเห็นผลเพราะว่าเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไม่ว่าจะเป็นเหล้าเบียร์ไวน์น้ำหมักทั้งหลายอาจมีผลทำให้ตับอ่อนเกิดการอักเสบซึ่งตับอ่อนนี้มีต่อมที่ใช้สร้างอินซูลินซึ่งอินซูลิน คือฮอร์โมนที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดผู้ป่วยที่ดื่มสุรามากมีตับอ่อนอักเสบเล็กน้อยแบบเฉียบพลันหรือแบบเรื้อรังจะมีผลทำให้การควบคุมน้ำตาลนั้นยากบางคนมีตับอักเสบร่วมด้วยซึ่งตับอักเสบจะทำให้น้ำตาลต่ำลง ผู้ป่วยที่ดื่มสุราจะมีระดับน้ำตาลที่เหวี่ยงมากตั้งแต่ต่ำมากไปจนสูงมากๆใช้ยาเม็ดก็ยากถ้าดื่มสุราเป็นประจำตับอ่อนอักเสบแบบเรื้อรังยาเม็ดอาจจะไม่ได้ผลเลยต้องใช้ยาฉีดและฉีดยาไปเพียงเล็กน้อยก็อาจจะทำให้น้ำตาลต่ำถึงขั้นเป็นลมหมดสติได้ จึงเป็นเหตุผลว่าผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานไม่ควรดื่มสุรา

เครื่องดื่มที่คนเป็นเบาหวานดื่มได้คืออะไรพูดถึงคำถามที่สี่คนเป็นเบาหวานดื่มชากาแฟได้หรือไม่คำตอบคือได้ชากาแฟไม่มีผลอะไรต่อระดับน้ำตาล แต่ห้ามใส่น้ำตาลมากห้ามใส่นมข้นหวานรถครีมและนมที่ใส่เข้าไปใส่น้ำตาลน้อยๆสั่งเครื่องดื่มอื่นๆให้เติมคำว่าหวานน้อยลงไป

คำถามที่ห้า ทำไมคนไข้เบาหวานบางคนจึงไม่อ้วนผอมมากแล้วยังเป็นเบาหวานก็จะมีผู้ป่วยบางคนเป็นเบาหวานชนิดที่หนึ่งคือร่างกายไม่สามารถสร้างอินซูลินได้เลยหรือคนไข้เบาหวานที่ติดสุราแล้วมีภาวะตับอ่อนอักเสบแบบเรื้อรังร่วมกับ มีภาวะขาดอาหารคนไข้กลุ่มนี้จะไม่สามารถใช้ยาชนิดเม็ดได้ต้องใช้ยาฉีดเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลเป็นการฉีดอินซูลินโดยตรงเข้าไปในร่างกา

คำถามที่หกเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ใช้ยา ใช้ยาเม็ดได้หรือไม่เบาหวานขณะตั้งครรภ์นั้นมีความพิเศษต้องควบคุมเข้มงวดมากกว่าเบาหวานทั่วไปเพราะมีความเสี่ยงต่อการแท้งก่อนกำหนดหรือเด็กตัวใหญ่มากทำให้เกิดการคลอดย่าง ทำให้เกิดอันตรายระหว่างคอดไม่สามารถใช้ยาเม็ดได้เพราะไม่มีการพิสูจน์ว่ายาเม็ดมีความปลอดภัยเพียงพอต่อเด็กในท้องดังนั้นถ้าผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานอายุน้อยๆแล้วตั้งครรภ์ต้องเปลี่ยนยาเป็นยาฉีดทั้งหมด

คำถามที่เจ็ดไข่ขาวในปัสสาวะคืออะไรไข่ขาวในปัสสาวะคือการตรวจพิเศษเพื่อดูการทำงานของไตผู้ป่วยเบาหวานที่เป็นโรคเบาหวานมานานการประเมินว่ามีไตเสื่อมหรือไม่ในระยะแรกแรกจะตรวจพบไข่ขาวรั่วออกมาในเป๋าสวในปริมาณน้อยๆแพทย์จะสั่งตรวจปัสสาวะ เป็นระยะระยะอาจจะปีละหนึ่งครั้งเพื่อประเมินว่ามีเบาหวานเข้าไตหรือไม่หากเกิน 30 ก็ถือว่ามีโปรตีนรั่วออกมาซึ่งเป็นการตรวจที่จะมีความไวสูงสามารถตรวจได้ในระยะต้นต้น ในระยะที่ผู้ป่วยยังไม่มีอาการอะไรแต่หากตรวจพบว่ามีไข่ขาวรั่วออกมาแล้วจะต้องทำอย่างไรคำตอบคือก็ต้องมาควบคุมน้ำตาลให้ได้น้อยกว่า 120 ต้องควบคุมความดันให้ได้ต้องงดเค็มออกกำลังกายและ ระมัดระวังในการใช้ยาต่างๆโดยเฉพาะยาที่เป็นพิษต่อไตเช่นยาแก้ปวดขาปวดแข้งปวดข้อกลุ่มเอ็นเสดทั้งหลายต้องใช้ด้วยความระมัดระวังมากขึ้น

Application ช่วยในการควบคุมน้ำตาลในเลือดตนเอง









 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น